เรามาทำความเข้าใจกับ โปรเจคเตอร์ กันก่อนนะค่ะว่ามี วิธีเลือกโปรเจคเตอร์ อย่างไรบ้างค่ะ
PORT และ CABLE ขั้นตอนแรกเราต้องตรวจสอบสายต่อและการเชื่อมต่อของโปรเจตเตอร์ก่อนนะค่ะ ว่ามี port อะไรบ้างและให้ cable อะไรในกล่องบ้าง
ในยุคปัจจุบันเครื่องโปรเจคเตอร์จะมี ช่องต่อ (projector port) อยู่มากมายให้เลือกนะค่ะ เพื่อเชื่อมต่อสัญญานรับภาพและเสียงจากเครื่องเล่น PC notebook Tablet หรือแม้กระทั้ง iphone ipad โดยผ่านทางช่องต่างๆที่พบในเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ แปลงกันไปแปลงกันมา มากมาย ยกตัวอย่างเช่น
port projector แบบนี่เรียกว่า พอร์ต VGAสำหรับช่องต่อ VGA หรือบางทีเรียกกันว่า Monitor Cable จะเป็นช่องต่อที่ใช้ต่อจอภาพธรรมดาของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีทั่วๆไปค่ะ มีขา 15 ขาถ้าลองนัดดู เป็นชนิดที่จะพบมากที่สุดในเครื่องโปรเจคเตอร์ทั่วๆไปค่ะ
ช่อง cable โปรเจคเตอร์ แบบที่เรียกว่า component videoสำหรับช่องต่อ projector แบบ Component Video หรือบางทีเราเรียกกันว่าช่อง RGB (red,green,blue) หรือ BNC component ซึ่งถ้าไปเปิด dictionary ก็จะแปลว่า ส่วนประกอบ ดังนั้นช่องต่อประเภทนี้ก็จะมีหลายช่องประกอบกันนั่นเอง ช่องประเภทนี้ให้ความคมชัดสูงในระดับ DVD และจะมีความคมชัดกว่าช่องต่อแบบ video และ S-Video
ช่องต่อแบบ HDMI ในสมัยนี่คงหนีไม่พ้น HDMI port เพราะว่า notebook หรือ laptop สมัยนี่มีช่องต่อ HDMI กันหมดค่ะ ความ-ละเอียดจมากกว่าค่ะ แบบ high-definition
อย่างไรก็ตามก็เลือก เอา port ในแบบที่เราต้องใช้งานนะค่ะ แต่ก็แนะนำให้มี HDMI ไว้ด้วยนะค่ะ เพราะเริ่มจะเป็นที่นิยมกันมากขึ้นไม่ว่าจะเอามาดูหนังหรือ presentation
วิธีการเลือกซื้อ โปรเจคเตอร์สำหรับสำนักงาน (office projector)
สำหรับการเลือกเครื่องโปรเจคเตอร์เพื่อนำไปใช้ในกิจการธุรกิจนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากค่ะ สำหรับมือใหม่ทุกท่านค่ะ ก็จะมีหัวข้อไม่กี่หัวข้อค่ะ ซึ่งจะแตกต่าง จากการเลือก Projector เพื่อฉายหนัง
1 ความสว่าง (projector brightness) หน่วยของความสว่างจะเป็น lumens ยิ่งสูงยิ่งแพงค่ะ แต่เราไม่จำเป็นต้องเลือกอันที่ความสว่างสูงๆ เสมอไปเพราะปกติ ถ้าเราฉาย projector กับฉากรับภาพ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความสว่างมากมายอะไร ยกเว้นในกรณีที่เราต้องการจะฉายกับฉากที่สะท้อนแสงได้ยาก ตัวอย่างเช่น กำแพงเป็นต้นค่ะ เลือกให้พอดีพอดีกับความต้องการค่ะ ซื้อแพงๆไปไม่ได้ใช้ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองเงินโดยปล่าวประโยชน์ค่ะ
2 ความละเอียด (projector resolution) สำหรับสมัยนี้ก็เลือกเอาให้เยอะๆ ไว้ก่อนก็ดีนะค่ะ หรือเถ้าเอาปานกลางก็ประมาณ 1024x768 ก็กำลังดีค่ะ
3 เรื่องของน้ำหนักเครื่อง บางทีเราตัองการย้ายเครื่องไปยังที่ต่างๆ บ่อยๆ เราก็ควรเลือกเครื่องที่ขนาดเล็ก
4 ราคา projector บางทีเราก็ต้องคำนึงถึงเรื่องราคา ไว้ด้วยเพราะบางยี่ห้อ ค่อนข้างแพงนะค่ะ เราควรเลือกให้พอเหมาะกับความต้องการไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเอาแพงๆค่ะ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถสอบถามฝ่ายขายได้เลยค่ะ
5 ราคา หลอดสำรอง เราต้องดูด้วยว่า บางยี่ห้อ หลอดสำรองแพงมากๆค่ะ ราคาเกือบจะได้ซื้อเครื่องใหม่อยู่แล้วนะค่ะ ต้องดูให้ดีค่ะ
